ถั่วในตระกูล Fabaceace family หรือที่เรียกว่า Leguminosae เป็นแขนงตระกูลถั่วที่ครอบคลุมสายพันธุ์หลากหลาย รวมถึงพืชที่มีเมล็ดพันธุ์ขนาดใหญ่ ที่พวกเราเรียกว่า “ถั่ว” หนึ่งในนั้นคือ สปีชีส์ Vigna ซึ่งประกอบไปด้วยถั่วเขียว ถั่วอะซูกิ, ถั่วตาดำ และ สปีชีส์ Vicia ที่ประกอบไปด้วยถั่วปากอ้า และกระถินฝรั่ง อันเป็นวัชพืชจำพวกหนึ่ง สปีชีส์ Glycene ที่เราเรียกว่า ถั่วเหลือง ล ฯ ล
ในบรรดาสายพันธุ์ถั่วที่มีมาแต่โบราณ ถั่วในสปีชีส์ Phaseolus มีความโดดเด่นที่สุด ถั่วในกลุ่มนี้ แบ่งออกเป็นสี่ สปีชีส์ หลัก ๆ คือ Phaseolus vulgaris เป็นสปีชีส์ที่มี ถั่วแขก ถั่วแดงหลวง ถั่วขาว เป็นสายพันธุ์เด่น Phaseolus acutifolius รู้จักกันในชื่อของถั่วเทปารีขนาดเล็ก, Phaseolus lunatus หรือสปีชีส์ ถั่วเนย และถั่วลิมา (ชื่อเรียกขึ้นกับแหล่งปลูก และช่วงเวลาการเก็บเกี่ยว) ซึ่งได้ชื่อในภาษาลาติน มาจากรูปลักษณ์ครึ่งจันทรา; สุดท้ายคือ สปีชีส์ Phaseolus coccineus หรือที่พวกเราเรียกว่า ถั่วฝักยาวฝรั่ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธุ์ถั่วดั้งเดิม ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก




สปีชีส์ Phaseolus vulgaris หรือ ถั่วแขก ถั่วแดงหลวง ถั่วขาว ปลูกง่ายและมีสีสันและพื้นผิวที่หลากหลายไม่รู้จบ ถั่วในสปีชีส์ นี้มีสายพันธุ์ที่หลากหลาย ล้วนแล้วแต่มีลักษณะการเจริญเติบโตในทรงพุ่ม หรือเลื้อยไปตามเสา ส่วนใหญ่จะมีสีดำ น้ำตาล เหลือง หรือขาว; มีจุดด่างดำ หรือมีลายคล้ายตา ถั่วสายพันธุ์ดั้งเดิมเหล่านี้ เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ในแปลงผักสวนหลังบ้าน และบนจานอาหาร
ถั่วเทพารี (Phaseolus acutifolius) เป็นถั่วที่เล็กที่สุดในทวีปอเมริกา กำเนิดขึ้นมาเมื่อหลายพันปีก่อน ในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือ เม็กซิโกและตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เคน อัลบาลา นักประวัติศาสตร์ถั่วเขียนไว้ว่า ชนเผ่าพื้นเมือง ในยุคโบราณ ชื่อ Tohono O’odham เป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมา เพื่อเพาะปลูกในดินที่แห้งแล้งกันดาล อย่าง ทะเลทราย ดังนั้นถั่วพันธุ์นี้จึงต้องมีขนาดเล็ก เพื่อให้พวกมันเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ที่ทำให้ถั่วเมล็ดใหญ่เหี่ยวแห้งไป ก่อนที่จะได้เจริญเติบโต
ถั่วลิมา (Phaseolus lunatus) เป็น สปีชีส์ ดั้งเดิม มีต้นกำเนิดในภูมิภาคแอนดีสของอเมริกาใต้ และได้ชื่อสามัญมาจากท่าเรือของประเทศเปรู ซึ่งในต้นศตวรรษที่ 16 ชาวสเปนใช้ขนส่งถั่วสายพันธ์ุนี้ กลับไปยังประเทศแม่ ซึ่งในสมัยนั้น จะเป็น ถั่วลิมา ที่มีเมล็ดใหญ่ โดยถั่วรุ่นที่ขนาดเล็กกว่า จะเรียกว่า ถั่วเนยหรือถั่วลิมาเล็ก ทั้งนี้คนทั่วไปจะรู้จักอีกสายพันธุ์หนึ่งของถั่วสกุลนี้ ที่เรียกว่า Chestnut Christmas Lima
ส่วนสปีชีส์ Phaseolus coccineus หรือ ถั่วฝักยาวฝรั่ง เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยแพร่หลายในไทย แต่ถือเป็นอีกกลุ่มสายพันธุ์หนึ่งที่มีความโดดเด่น เนื่องจากปลูกง่าย หลาย ๆ พันธุ์มีดอกสีฉูดฉาดสดใส คล้ายลิปสติก เป็นสกุลถั่วที่สามารถรับประทานถั่วได้ในเกือบทุกระยะของการเจริญเติบโต ตั้งแต่ตอนเป็นดอก จนเป็นฝัก แต่จะอร่อยที่สุด เมื่อได้เจริญเติบโตเต็มที่ ถั่วสกุล P. coccineus ถือเป็นถั่วสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุด ที่มีการเพาะปลูกในทวีปอเมริกา เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในสภาวะอากาศเย็น และอบอุ่น และยังแตกแขนงกิ่งก้านสาขาออกมา ให้ดัดขึ้นโครง หรือปล่อยให้เลื้อยไปตามธรรมชาติได้
ทั้งนี้ถั่วลูกไก่ ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cicer arietinum ถือเป็นหนึ่งในพันธุ์พืชแรก ๆ ในโลก ที่มีการนำไปเพาะปลูก ถั่วลูกไก่ ที่ปลูกกันมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ ถั่วคาบูลิ (สีซีด) และถั่วเดซี (สีน้ำตาลเข้มและเนื้อแน่น) ถั่วลูกไก่ เติบโตคล้ายกับถั่วลันเตา แต่ฝักส่วนใหญ่จะมีเมล็ดเดียว ในบางส่วนของโลก ถั่วลูกไก่จะรับประทานกันในขณะที่ยังสดและเขียว คั่วในฝัก หรือต้มและโรยเกลือ
ถั่วมีลักษณะการเจริญเติบโตที่หลากหลาย สายพันธุ์ถั่วเทปารี สามารถทนความแห้งแล้งได้ ในขณะที่สายพันธุ์อื่น ๆ ต้องได้รับนำ้สมำ่เสมอ โดยทั่วไปถั่วทุก ๆ สายพันธุ์ ต้องการแสงแดดในเวลายาวนาน เพื่อให้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ก่อนจะนำไปตากแห้งและปรุงอาหาร
ถั่วเป็นพืชในเขตพื้นที่อบอุ่น โดยจะงอกจากเมล็ด คลี่ใบ เพื่อรับแสงและสังเคราะห์ไนโตรเจน อย่างรวดเร็ว พืชตระกูลถั่วทุกชนิดจะมีลักษณะการเจริญเติบโต อย่างหนึ่งอย่างใด ต่อไปนี้
- ต้องการโครงสร้างไว้เลื้อย เช่น เสา เพราะถั่วบางชนิดชอบปีนขึ้นที่สูง (เช่นถั่วแดงหลวง) แต่บางสายพันธุ์ก็เจริญเติบโตเป็นทรงพุ่ม
- ดอกจะมี สีขาว สีชมพู สีแดง หรือสีนำ้เงิน
- หลังดอกบาน จะตามมาด้วยพัฒนาการของฝักสีเขียว ที่หากไม่โดนเก็บเกี่ยว ก็จะพัฒนาต่อไปเป็นเมล็ดถั่ว ที่สามารถรับประทานแบบสด หรือตากแห้ง
พืชตระกูลถั่วสร้างคุณประโยชน์ต่อดินมากกว่าพืชชนิดอื่นๆ เนื่องจาก มันเปลี่ยนไนโตรเจนในบรรยากาศให้เป็นรูปแบบทางชีวภาพที่จำเป็นต่อการหล่อเลี้ยงพืช ดังนั้น โรงกลั่นไวน์หลาย ๆ แห่ง จึงปลูกถั่วลันเตาเป็นพืชคลุมดินในขณะที่เถาวัลย์องุ่นกำลังพักตัวเพื่อเตรียมรับฤดูหนาว เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ คนงานในไร่องุ่นจะไถดินเพื่อใช้เป็นปุ๋ยบำรุงดินที่มีคุณค่าทางโภชนาการหรือปุ๋ยพืชสด
ป.ล. บางคนอาจะเข้าใจผิด คิดว่าวนิลา ซึ่งมีลักษณะคล้ายถั่วฝักยาว จะเป็นพืชตระกูลถั่ว แท้จริงแล้ว วนิลา ถือเป็นกล้วยไม้สายพันธุ์หนึ่ง
การเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวและลอกฝักถั่ว เป็นงานที่ซำ้ซากน่าเบื่อ ซึ่งหากได้คนช่วย ก็จะดีขึ้น เราควรเก็บเกี่ยวเมล็ดถั่ว เมื่อฝักแห้งและถั่วมีเนื้อแน่น ถ้าฝักมีความชื้นมากเกินไป ก็จะเกิดราได้ ถ้าแห้งเกินไปฝักก็จะกรอบ และหากสัมผัสโดนโดยไม่ตั้งใจ ปลายฝักก็จะเปิดออก ซึ่งทำให้เมล็ดถั่วเหล่านั้น ไม่อาจเก็บเกี่ยว
ในสมัยโบราณ เราจะเก็บเกี่ยวถั่วด้วยนำฝักถั่วมาใช้ถุงแล้วหาอะไรมาตำ หรือนำมาตำกับครก จนฝักถั่วเปิดออก ก่อนจะนำเปลือกฝักไปผสมกับปุ๋ย และหว่านลงแปลงอีกครั้ง ปัจจุบัน เรามีเครื่องจักรหลากหลายชนิด สำหรับการเก็บเกี่ยวถั่วในทุกขั้นตอน งานซำ้ซากจำเจในสมัยโบราณ จึงเปลี่ยนแปลงไป
การปลูกถั่วเพื่อการค้า
การปลูกถั่วสายพันธุ์ดั้งเดิมเพื่อการค้า เป็นงานที่มีความยาก สำหรับเกษตรกร ที่สนใจจะเพาะปลูกในสเกลใหญ่ ดังนั้น เกษตรกรรายใหญ่จึงเพาะปลูก เพียงแค่หนึ่งหรือสองสายพันธุ์ ในแปลงขนาดใหญ่ เพื่อการควบคุมการผลิต ให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เป็นเพราะ หากผลผลิตที่ได้มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เกษตรกรก็อาจจะขาดทุนมหาศาล ดังนั้น การเรียนรู้สายพันธุ์ใหม่ ๆ ทุกฤดูกาล จึงไม่เหมาะสม
เกษตรกรจะปลูกถั่ว สองแถวต่อร่อง บางครั้งสามแถวต่อร่อง ขึ้นกับสายพันธุ์ เมื่อหมดฤดูเพาะปลูก และฝักถั่วโตเต็มที่แล้ว เกษตรรกรจะใช้รถเทรคเตอร์ตัดต้นถั่วที่โคน ปล่อยลำต้นให้แห้งในแปลง จนระดับความชื้นอยู่ที่ 12 – 15 % จึงใช้มือจัดเป็นแถว แล้วใช้เครื่องจักรลำเลียงขึ้นสายพาน กะเทาะเปลือก แยกเมล็ด
เมนูเลิศรส
การทำอาหารจากเมนูถั่วนั้นง่ายมาก ตั้งไฟทิ้งไว้จนพร้อมรับประทาน
กระนั้น ถั่วเป็นธัญพืชที่แปลก การเปลี่ยนถั่วให้เป็นอาหารเลิศรสนั้นแปลกยิ่งกว่า การทำเมนูถั่วนั้นต้องตั้งไฟทิ้งไว้เป็นเวลานานเป็นชั่วโมง แต่ต่างจากการทำริช็อตโต้ที่ ไม่ต้องพลิกกลับด้าน หรือคนบ่อย ๆ แค่ตั้งไฟทิ้งไว้ แล้วออกไปทำธุระ กลับมา ก็จะได้เมนูถั่วแสนอร่อย